ทำไมถึงอยากทำ mobile app

dont start with mobile app

สำหรับคนที่เป็นเจ้าของกิจการและอยากทำให้ตัวเองเข้ามาอยู่ในโลก online เค้ามักจะถามด้วยคำถามคล้ายๆกันคือ mobile app ทำยากมั้ย, mobile app ทำแพงหรือเปล่า , ถ้าจ้างทำ mobile app คิดเท่าไร ทั้งๆที่หลายคนที่ผมเคยคุยด้วย กระทั่งเว็บของตัวเองยังไม่มีเลย แต่รู้มาว่ายุคนี้ใครก็ใช้มือถือกันและถ้าเราอยากเข้าถึงคนจำนวนมากๆในยุคมือถือ ก็ต้องทำ mobile app

ผมล่ะปวดหัว กับการที่ไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นไปเอาความเชื่อผิดๆเหล่านั้นมาจากไหน ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากทำ mobile app โดยยังไม่รู้สิ่งที่จะได้รับอย่างแน่ชัดแล้วล่ะก็ ขอให้อ่านเลยครับ

อย่าทำ Mobile App ถ้าไม่มั่นใจว่าจะนำเสนอยังไง

ทุกคนรู้แน่นอนว่า mobile app ที่เราอยากทำ จะนำเสนอสินค้าและบริการของเรา แต่ถ้ายังไม่รู้ว่า จะนำเสนอให้คนใช้งานยังไงให้โดนใจ อย่าทำ! เพราะเอาเงินไปทิ้งเปล่าๆ แนะนำให้เริ่มจากการทำเว็บก่อน เว็บที่ให้เราใช้งานฟรีมีเยอะมาก เช่น lnwshop, page365 หรืออื่นๆ ลองทำแล้วนำเสนอให้คนใช้งานเข้ามาที่เว็บสุดเจ๋งเราก่อน แล้วเราจะได้รู้ความจริงว่า เจ๋งเรา กับเจ๋งคนใช้ ต่างกันเหลือเกิน

Mobile app ไม่ได้ทำให้ขายได้ดีขึ้น

เรื่องนี้เป็นความมโนของเจ้าของสินค้าและบริการเหล่านั้นเอง ว่าการทำ mobile app แล้วจะทำให้ขายสินค้า และ บริการต่างๆได้ดีขึ้น ง่ายขึ้น ซึ่งผิดครับ ลองนึกสภาพว่า ลูกค้าจะซื้อของได้ จะต้องโหลด App มาติดตั้ง แล้วซื้อเสร็จเค้าก็ลืมมันไป โดยเฉพาะของที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆที่แย่เลย เพราะว่า จะกลายเป็น App ที่ถูกลืม หรือเป็น App ขยะในสายตาคนใช้ ซ้ำร้ายกลายเป็นพาลเกลียดสินค้าบริการไปด้วย เพราะว่าใช้ยากนี่แหล่ะ

Mobile App กากๆ ก็พาธุรกิจล่มจมได้

ผมมี case ตัวอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องจริงกับ Application ของ Major Movie Plus หรือ Application ของ Major cineplex นี่แหล่ะ ที่จากเดิมเค้าก็มี Application ของตัวเองมานานแล้ว อยู่มาวันนึงก็ทำการรื้อทำใหม่หมด ยกเครื่อง ทั้งระบบการทำงาน และ หน้าจอ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ผลที่ตามมาก็คือ ถูกคนใช้กระหน่ำต่อว่า ซ้ำร้ายถึงขนาดเป็น App ที่ UX/UI ยอดแย่แห่งปีกันเลยทีเดียว บางคนถึงกับเลิกดูหนัง Major แล้วไปดู SF แทนเลยก็มี เพราะว่าใช้แล้ว งง มาก จองตั๋วยุ่งยากมาก เป็นต้น จะเห็นได้ว่า ผลกระทบค่อนข้างรุนแรงทีเดียว

Mobile App ไม่ได้เข้าไปอยู่ในเครื่องมือถือได้ง่ายๆ

ทุกอย่างต้องจ่ายด้วยอะไรบางอย่าง การที่เราจะเอา App สุดเจ๋งของเราให้เข้าไปอยู่ในเครื่องของคนใช้งานที่มีทรัพยากรน้อยนิด และจำกัดได้ เราต้องมีอะไรบางอย่างไปแลกเค้า ซึ่งส่วนใหญ่คนทำก็ต้องเสียเงินในรูปแบบหรือทางใดทางหนึ่งแน่นอน เช่น เอาของมาล่อให้ติดตั้ง, แจกส่วนลด หรือ อื่นๆก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เค้าไม่ได้ใช้เพราะอยากใช้ แล้วสุดท้ายเค้าก็จะเอามันออกจากเครื่องอย่างแน่นอน ไม่ต้องห่วง

Mobile App มันแพง

อันนี้คงไม่ต้องพูดมาก แต่บอกได้ว่า มันแพงกว่าการทำเว็บแน่นอน ทั้งที่การทำงาน แทบไม่ได้ต่างกันมาก

Web น่ะ มีแล้วหรือยัง รองรับ ทุก device มั้ย

บางคนกระโดดมาทำ Mobile App เลยนี่มีโอกาสเน่าสูงมาก เพราะว่า เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าฐานลูกค้าเราใช้ iOS มากกว่า หรือน้อยกว่า Android บางทีอาจจะเป็น Windows Phone มากกว่าก็ได้ เราก็ต้องมาเสียเวลา เสียเงิน ทำ 3 version ซึ่งแพงมากแน่นอน ดังนั้นต้องย้อนกลับไปว่า Web ของสินค้าและบริการน่ะ มีแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่มี ก็ทำให้มีก่อนซะ เพราะเราจะได้ Track ได้ว่าคนใช้งานของเรา ใช้ device อะไรมากน้อยแค่ไหน เวลาถ้าจะต้องทำ App จริงๆ ก็ให้เป็นเสียงเรียกมาจากคนใช้งาน ไม่ใช่อยากทำขึ้นมาเอง และมีเว็บก็ไม่พอนะ ต้องดูว่าเว็บเรา เปิดด้วย PC Windows, PC Linux , Mac, iOS phone, iOS tablet, Android Tablet, Android Phone, Windows Phone ด้วยขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน แล้วให้ประสบการณ์ใช้งานเป็นอย่างไรบ้าง ถ้ายังทำตรงนี้ให้ดีไม่ได้ บอกเลยว่า ตอนทำ App หนักกว่านี้อีกเยอะ

ทั้งหมดนี้ ก็หวังว่าจะกระตุ้นคนที่ไม่รู้จะทำอะไรก็เริ่มต้นที่ทำ Mobile App ก่อนเลย ให้ได้คิดก่อนจะเริ่มทำบ้าง หากคนรอบตัวคุณกำลังคิดแบบนี้อยู่ ลองส่งให้เค้าอ่านเลย เผื่อว่าจะได้เปลี่ยนใจทัน

Exit mobile version