เกือบจะกลายเป็น HR แล้ว

เกือบจะกลายเป็น HR แล้ว

ช่วงนี้ผมต้องหาคนเยอะมาก ถึงมากที่สุดโดยเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ผมต้องสัมภาษณ์คนเกือบ 20 คน เพื่อเอามาใส่ในตำแหน่ง 10 กว่าตำแหน่ง แน่นอนว่า บ้างก็เหมาะสม บ้างก็จบใหม่เอี่ยม บ้างก็ over qualify ไป (คืออยากรับ แต่โดนจำกัด level+salary มาครับ)

แต่ว่า style การสัมภาษณ์ผมจะแปลก เพราะว่าหลายคนจะเห็นว่าผมพิมพ์อะไรไปเรื่อยตลอดเวลา นั่นคือผมกำลังจดบทสัมภาษณ์อยู่ เพื่อใช้เป็นสิ่งที่เตือนผมภายหลังว่า การพูดคุยแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไร คือแบ่งเบาภาระสมองนั่นเอง เมื่อสัมภาษณ์จบแล้วผมจะ clear ออกเลย แค่มีในใจนิดหน่อยพอว่า รับได้มั้ย รับแล้วเอามาทำอะไร วางเอาไว้ตรงไหนของทีม ไม่ได้ต่างจากกับตันทีมที่ต้องวางตำแหน่งของนักกีฬาในสนามเลยครับ เพราะว่าบางคน บู๊ บุ๋น ไม่เหมือนกัน เป็นหน้าที่ผมที่ต้องจัดโครงสร้างให้ได้ บางคนถึงกับถามว่า ไม่มีบททดสอบอะไรเลยเหรอครับ ผมก็บอกตรงๆเลย ไม่ต้องมีครับผมไม่เคยใช้ตลอดหลายปีที่สัมภาษณ์คนมา เพราะว่า ถ้าเค้าเก่ง ผมคุยด้วยแล้วจะรู้ครับ แต่พวกเนียนก็มีเยอะมาก จำได้เลยมี case นึง ที่บอกว่าตัวเองเป็น full stack developer ผมนี่ตาวาวเลย ผมก็ถามเจาะลงในในเรื่องของ PHP processing เค้าอึ้งๆไปแล้วก็เสียงอ่อยๆว่า อ๋อ ไม่ทราบ ผมก็คิดต่อว่า เค้าน่าจะรู้เรื่อง server มั้ง ก็ถามเจาะไปที่ server config ที่ไม่น่าจะยากเกินไป ก็อึ้งไปอีก แล้วเสียงอ่อยว่าไม่ทราบ ผมก็เลยแปลกใจและ เลยลองถามเรื่องพื้นฐานว่า ใช้ HTML version อะไรอยู่ปรากฏว่า ตอบไม่ได้ ผมนี่เงิบไปเลย แล้วกล้าเรียกตัวเองว่า full stack developer ดังนั้น ไม่ต้องมีบททดสอบครับ คุยด้วยแล้วรู้แน่นอน ถ้าจะวัด ผมจะมีคำถามที่จะใช้วัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำกันแต่ละคนแน่นอน

ผมถึงกับเกือบจะกลายเป็นยอดมนุษย์ เพราะว่า สัมภาษณ์คนเยอะมากๆ อีกทั้งงานปกติที่ตัวเองมีก็ต้องทำ อีเมลทุกฉบับก็ต้องอ่าน (ผมเป็นพวก zero inbox นะครับ เดี๋ยวเล่าให้ฟังว่ามันคืออะไร) ตอบรายงานเรื่องราวต่างๆทาง business อีก คืองานตัวเองก็เยอะอยู่แล้ว เพราะว่าต้องดูแลทีม 6+2 ทีม (อีก 2 ทีม เค้าฝากมา ก็ต้องเอามาดูเหมือนเป็นทีมตัวเอง) แต่ก็ต้องทำให้ได้

ผมก็มองย้อนตัวเองเหมือนกันนะว่าทำได้อย่างไร เรื่องนี้เล่าได้อีกเป็นวันๆครับ แต่สรุปสั้นๆก็คือ ถ้าคุณอยากทำได้อย่างยอดมนุษย์สิ่งหนึ่งที่คุณต้องทำให้ได้ก่อนเลยก็คือ การบริหารจัดการตัวเอง ถ้าตรงนี้ทำไม่ได้รับรองว่าเละ!

คนที่มาสัมภาษณ์กับผมเกือบทุกคนจะได้อะไรจากผมไปเสมอๆ ถ้าเป็นคนที่อยากรู้เรื่องอะไร แล้วถามผมก็จะตอบหมด หลายคำถามที่เป็นเรื่อง technical แล้วตอบผมไม่ได้ ผมก็อธิบายให้ฟังด้วยเพื่อให้เอาไปเป็น idea ในการหาข้อมูลเพิ่มเติม หากต้องการ update ความรู้ตัวเองเพิ่ม คือผมมองว่า การมาสัมภาษณ์ไม่ใช่แค่มาคุยกันแล้วเดินจากกันไปหากไม่ได้ร่วมงาน แต่ว่า มันคือการสร้างความสัมพันธ์และภาพลักษณ์ให้บริษัทอย่างหนึ่งด้วย เพราะว่าสิ่งที่ผมพยายามทำก็คือ ทำทีมที่อบอุ่น น่าทำงานด้วย น่าร่วมงานด้วย เพราะว่าทีมงานผมต้องโตขึ้นในทุกๆวัน ต้องรู้มากขึ้น ต้องเก่งมากขึ้น และเมื่อถึงวันที่เค้าเก่งถึงจุดหนึ่งก็ต้องถูกผลักดันให้ขึ้นตำแหน่งอย่างเหมาะสมด้วย แต่ถ้าปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้อ แล้วที่อื่นเสนอมาว่าเหมาะกว่า ผมก็ยินดีให้เค้าจากไปได้ด้วยดีเช่นกัน ไม่ได้หวงของเลย เพราะว่า ทุกคนต้องเติบโต ไม่ว่าที่นี่ หรือที่ไหนก็ตาม ผมเป็นคนเปิดกว้างและมองโลกตามความเป็นจริงครับ

สิ่งนี้ทำให้หลายคนอยากมาร่วมงานกับผม หลายคนถึงกับยอมลดเงินเดือนก็มีครับ

ทั้งหมดนี้ผมอยากบอก HR เหลือเกิน ช่วยแบ่งเงินเดือนให้ผมด้วย เพราะว่าผม สรรหา profile > ทำนัดสัมภาษณ์ จองตาราง และห้องประชุม > สัมภาษณ์ > สรุป ทั้งเรื่อง วันเริ่มงาน ต่อรองเงินเดือนเสร็จสรรพ HR เหลือแค่ผมไปทำงานคีย์เข้าระบบ กับร่างสัญญาก็ครบวงจรพอดี 5555 (แซวเล่นนะครับ)

Exit mobile version