สวัสดีตีสี่ครึ่ง วันที่ 8 วันนี้มีฝากเรื่องการเติมเชื้อไฟ
น่าจะเกิดความเคยชินแล้ว ทำให้เริ่มลงตัวขึ้น แม้ว่าเมื่อคืนจะนอนดึก (เกือบเที่ยงคืน) แต่ก็สามารถตื่นได้เป็นปกติ
activity ตอนนี้หลักๆที่พยายามทำในช่วงเช้าของทุกวันก็คือ การออกกำลังกายที่บางวันก็จะเป็นการ push up (เป้าหมายให้ได้ 100 ครั้ง) หรือ สลับกับการออกกำลังกายที่เน้นกล้ามเนื้อหน้าท้อง จัดการ email งาน และ งานบางส่วน รวมทั้งไป office เช้าขึ้น แม้ว่าต้องเข้านอนเร็ว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่า productivity ลดลงแต่อย่างใด เพราะว่าเมื่อก่อน ก็จะไม่ค่อยทำงานเมื่อกลับมาถึงบ้าน เพราะรู้สึกล้า และอยากพัก ก็จะเสียเวลาไปกับการ surf internet ทั่วไปซะมากกว่า และที่แน่ๆ ก็คือ การออกกำลังกายที่ทำไม่ได้ทุกวัน หากต้องทำหลังเลิกงาน เพราะบางวันก็เลิกดึก บางวันก็กลับมาไม่ทัน กลับมาก็อยากพักอย่างที่บอก แต่ตื่นมาทำเรื่องพวกนี้ตอนเช้า ทำให้เราได้ทำมันในทุกๆวันครับ
วันนี้มีเรื่องที่อยากเอามาฝากกัน นั่นคือการเติมเชื้อไฟให้ตัวเองในทุกๆวัน โดยที่ไม่ต้องออกไปเที่ยว เมื่อก่อนผมก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร จนกระทั่งไปเจอ VDO จาก youtube แล้วก็นั่งดูไปดูมาแล้วพบว่า VDO ที่เติมเชื้อไฟให้เรานั้นมีเยอะมาก มากจริงๆ ที่เราดูแทบไม่หมดเลย และพบว่านี่เป็นสิ่งที่ควรทำใน youtube มากกว่าการดูละคร ดู game show ย้อนหลัง สิ่งเหล่านั้นเรารอไปทำทีหลังได้ เรารอไปดูเมื่อวันที่เราประสบความสำเร็จได้ ไปดูเมื่อวันที่เรามีบ้านดีๆแล้ว มีรถขับที่อยากมีแล้ว มีเงินเก็บมาพอที่จะไม่ต้องทำงานนานหลายปีแล้ว แต่ถ้าเรายังไม่อยู่ในจุดนั้น เราก็ต้องสร้างมันขึ้นมานับตั้งแต่วันนี้ การเติมเชื้อไฟ การทำให้ตัวเองดีขึ้น มันเป็นสิ่งที่รอไม่ได้ เลื่อนไม่ได้ ถ้ารอต่อไป ถ้าเลื่อนต่อไป เมื่อไรเราจะสำเร็จ ทุกคนทำแบบเดิมๆในทุกๆวันทั้งๆที่ก็รู้ว่ามันก็ไม่ได้ทำให้เราสำเร็จหรอก แต่ก็แอบคิดว่า เมื่อไรเราจะสำเร็จสักทีนึง
ก็เลยหยิบ VDO มาตัวหนึ่งที่เป็นตัวอย่างการเติมเชื้อไฟ เสียเวลาดูประมาณ 5 นาที แต่ว่าสิ่งที่จะได้คือเชื้อไฟที่จะเติมให้เรามีพลังที่จะเดินต่อไป ตัวนี้มี sub thai นะครับ แต่ดูเหมือนว่า sub eng จะได้อารมณ์ว่า ก็ถือเป็นการผึกภาษากันไปด้วยนะครับ
VDO เหล่านี้ยังมีอีกเยอะมากที่จะดูได้ไม่รู้จบเลย ค่อยๆดูไปครับ เติมเชื้อไฟให้ตัวเอง สะกดจิตตัวเองไปเรื่อยๆ เหมือนกับเวลาที่คนไปสัมมนาขายตรงทำไมเค้าถึงหลงสมัครได้ เพราะว่าข้างใน ถูกตัดขาดจากภายนอก และสร้าจิตวิทยากลุ่ม ก็เหมือนการถูกสะกดจิตให้เชื่อนั่นแหล่ะ ดังนั้นถ้าเราดูสิ่งเหล่านี้ไปเรื่อยๆ เราก็จะพบว่า เราทำได้ เราเริ่มในสิ่งที่เราอยากทำได้ เราจะสู้ แม้เราจะล้ม เราก็จะลุกขึ้นสู้เพราะเรารู้ว่าเรากำลังสู้ไปเพื่อเป้าหมายอะไร สิ่งที่จะตามมาคือ ความคิดเราจะเริ่มเปลี่ยน ขึ้นอยู่กับเราตั้งใจดู และดูนานแค่ไหน และเมื่อความคิดเราเปลี่ยนพฤติกรรมเราก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย
ป.ล.สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า สวัสดีตีสี่ครึ่งคืออะไร อ่านได้ที่ วันแรกของ 21 day early ภารกิจ ตื่น 4.30 ต่อกัน 21 วัน!