ความเสี่ยงของการเป็นหัวหน้า

leader should take risk

หัวหน้าที่ดีต้องรู้จัก รับชอบ และรับผิด นั่นเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของการเป็นหัวหน้าเลย

เคยสงสัยไหมครับ คนที่เป็นหัวหน้ากับลูกน้องความคิดแตกต่างกันยังไง ผมได้ลองสังเกตุคนหลายคน ที่เป็นลูกน้องมาแทบทั้งชีวิต หรือคนเป็นหัวหน้าที่ไม่มีคนเคารพ มีแต่คนไม่ชอบ ความแตกต่างของเขาก็คือ คนที่เป็นหัวหน้าตัวจริงมักจะรู้จักรับชอบ และรับผิด ไม่ใช่รักแต่ชอบ เอาหน้าอย่างเดียว ความผิดพลาดเก็บใต้พรมหรือโยนให้ลูกน้อง คนแบบนี้ถึงจะขึ้นเป็นหัวหน้าแล้ว ก็อยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานนักเพราะลูกน้องไม่สนับสนุน แล้วถ้าเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องไม่สนับสนุนการเติบโต จะเป็นหัวหน้าต่อไปก็คงเป็นเรื่องยาก

ผมเคยศึกษาคนหลายคนที่เขาเป็น project Manager สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมพบความแตกต่าง คือเรื่องของการแบกรับความเสี่ยง ผมเจอทั้งแบบที่ชอบทำงานสบายๆ อยากได้แต่ผลงาน แต่ไม่รับความเสี่ยงอะไร และเจอทั้งแบบเป็นคนที่มุ่งมั่นกล้าท้าทาย ชอบที่จะเปลี่ยนสิ่งใหม่และพร้อมจะรับกับผลที่จะเกิดตามมา คนสองประเภทนี้ก่อให้เกิดความแตกต่างกันอย่างมาก

หัวหน้าที่ชอบความสบาย เขาก็มีความคิดที่อยากจะพัฒนางาน แต่เขาจะไม่อยากทำมากจนเกินไปนัก เพราะเค้าคิดว่า การทำอะไรที่มากเกินไปหรือเปลี่ยนแปลงเยอะเกินไปมันจะนำมาซึ่งความเสี่ยงของตัวเขาเอง ยกตัวอย่างง่ายๆเคสนึงที่เคยเจอ เขารู้ว่าระบบหนึ่งกำลังมีปัญหาอยู่ เขาก็พยายามให้ลูกทีมแก้ไข โดยที่เขาไม่ช่วย ไม่บอก อะไรเลย(ด้วยความที่เค้าไม่ได้ insight กับ project และความรู้ก็ไม่ลึกพอ) พยายามให้ลูกทีมทำให้ได้ กดดันบ้าง ว่าบ้าง เพื่อให้ทำงานออกมาได้เร็วๆ ซึ่งจริงๆแล้วเรื่องนี้ เขาจะต้องหาที่ปรึกษาหรือจัดจ้างผู้รู้มาเป็นที่ปรึกษาของลูกทีมจึงจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้แต่เขาไม่ทำ เขาไม่มั่นใจว่า ถ้าต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงในการจัดจ้างมาแล้ว ถ้าลูกทีมยังทำไม่ได้ เขาจะต้องรับผิดชอบ เขาก็เลือกที่จะกดดันลูกทีมต่อไป แล้วเมื่อไม่สำเร็จก็โยนให้เป็นความผิดของลูกทีม ว่าไม่มีความรู้เพียงพอที่จะทำได้ มีแต่คนที่ไม่เก่ง แบบนี้ทีมก็ไม่อยากสนับสนุนเขา

หัวหน้าที่ชอบลุย และรับผิดรับชอบ เขาก็มีความตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงเหมือนคนประเภทแรกนี่แหละ แต่ความแตกต่างก็คือ เขาพร้อมที่จะรับกับผลที่จะเกิดขึ้น การจะเปลี่ยนแปลงบางอย่างเขาก็เอาตัวเองลงไปทุ่มเทให้มั่นใจว่า ความเปลี่ยนแปลงนั้นมันจะเป็นไปในทางที่ถูกต้อง และถูกใจ มากกว่าจะนั่งสั่งให้ลูกทีมทำไปโดยที่ตัวเองนั่งรอผลอย่างเดียว แน่นอกแบบนี้เขาจะเหนื่อยกว่าแต่ว่าลูกทีมก็เต็มใจที่จะร่วมงานกัน ผลงานของหัวหน้าจะสำเร็จได้มันก่อเกิดมาจากลูกทีมนั่นแหละ ไม่ใช่ลูกทีมทำอยู่แค่ฝ่ายเดียว

ดังนั้นถ้าหากว่าคุณเป็นหัวหน้าอยู่ หรือกำลังคิดว่าจะขึ้นเป็นหัวหน้า ความเสี่ยงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังไงก็ต้องเจอ แต่ขอให้คิดไว้อย่างหนึ่งว่าถ้าเราต้องเสี่ยงก็ขอให้หาความรู้ให้เพียงพอ และลงไปเสี่ยงกับมัน ตั้งใจทำให้เต็มที่ ส่วนเรื่องผลลัพธ์ คุณอาจจะคาดการได้เพียงแค่บางส่วน แต่ต้องมั่นใจว่า ไม่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตามคุณจะได้เรียนรู้อย่างแน่นอน แม้ว่าครั้งแรกจะผิดพลาดแต่ครั้งต่อไปจะพลาดไม่ได้อีก ถือเป็นวุฒิภาวะของความเป็นผู้นำโดยแท้

แต่ถ้าคุณเป็นลูกทีมอยู่ แล้วคุณกล้าคิดกล้าทำ กล้าลอง กล้าเสี่ยงแบบนี้ แปลว่า คุณมีภาวะการเป็นผู้นำอยู่ในตัวแล้ว ฝึกต่อไปเรื่อยๆแล้วคุณจะเติบโตขึ้น ถ้าไม่โตขึ้นในบริษัทปัจจุบันก็เป็นบริษัทถัดไปอย่างแน่นอน

2 thoughts on “ความเสี่ยงของการเป็นหัวหน้า

  1. เป็นกำลังใจให้นะครับ ได้รับเรื่องราวดี ๆ จากการถ่ายทอดความรู้มาก ๆ เลยครับ เป็นกำลังใจให้เขียน blog ดี ๆ อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ นะครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *