ผมเป็นคนที่ไม่คิดอยากเที่ยวมานานมาก ปีนึง นับครั้งได้ ว่าเที่ยวไปกี่ครั้ง ที่แน่ๆ คือน้อยกว่า 5ครั้งต่อปีโดยเฉลี่ย แล้วยิ่งต่างประเทศ นับได้เลย ครั้งเดียวเท่านั้น! และเป็นการเที่ยวที่ต่อเนื่องจากการไปทำงานอีกต่างหาก ไม่ได้วางแผนจะไปเที่ยวจริงๆจังๆ แต่หลังจากนี้ มันเปลี่ยนไป…..

วันหนึ่ง อยู่ดีๆ ผมก็คิดว่า เอ๊ะนี่ชีวิตเรามีแค่นี้เหรอ คือทำงาน เก็บเงิน แล้วตอนนี้ บ้านก็มีแล้ว (จริงอยู่ว่ายังผ่อนไม่หมด แต่ว่าตอนนี้ความมั่งคั่งสุทธิ เป็นบวกอยู่แล้วครับ) รถก็มีแล้ว (ตอนซื้อสด) มอเตอร์ไซค์ก็มีแล้ว (ซื้อสดเหมือนกัน และชอบขี่ เพราะเดินทางได้เร็วกว่ารถ) ดังนั้น ผมต้องการอะไรอีก?

รุ่นน้องคนสนิทคนหนึ่ง เราเล่าเรื่องกันและกันให้ฟังเรื่อยๆ มาสะกิดความคิดผม ว่าเค้าทำประกันให้ภรรยาเค้า และตอนนี้เค้าเหลือผ่อนบ้านหมด รถหมด เค้าก็ถือว่าชีวิตเค้าพอแค่นี้แล้ว หากเค้าเป็นอะไรไป ภรรยาเค้าก็อยู่ได้สบายๆแล้ว แต่เค้าก็ไม่ได้หยุด หรอกนะ แต่หมายถึงเค้าวางแผนได้ครอบคลุมชีวิตเค้าเอาไว้แล้วเท่านั้นเอง

เท่านั้นเอง ความคิดผมก็เปลี่ยนไป ในคืนนั้นเอง ผมกลับมานั่งวางแผนชีวิตของผมใหม่หมด เริ่มต้นด้วยการซื้อประกันชีวิตเพื่อให้ทุนประกันของผม สามารถให้ภรรยาของผมใช้งานไปได้อีกอย่างน้อย 10 ปีหากผมเป็นอะไรไป โดยหลังจากนั้น ก็คิดว่าน่าจะตั้งหลัก แล้วใช้ชีวิตต่อไปได้แล้ว บ้าน รถ แน่นอน ผมเอาไปไม่ได้อยู่แล้ว 555 ดังนั้น ผมคิดว่า ผมก็จบแผนของผมละ

แล้วต่อจากนี้ล่ะ? ผมถามตัวเอง

ผมก็คิดว่า หลังจากนี้ เราก็ทำอะไรที่เราอยากทำสิ เท่านั้นเอง ผมก็มองชีวิตเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบทันที

เริ่มต้น ผมชวนภรรยาเที่ยวเลยครับ ฮ่องกง เป็นเป้าหมายที่เค้าอยากไปมานานแล้ว (จริงๆก็มีอีกหลายประเทศ แต่เริ่มต้นชิมลางจากที่ไม่ไกลมากก่อนแล้วกัน อ้อ ที่เคยไปต่างประเทศกันครั้งนึง นั่นคือสิงคโปร์ครับ แต่สั้นๆ) ใช้เวลาครึ่งวัน ทำแผนที่ท่องเที่ยวการเดินทางเสร็จสรรพ และก็กำลังจะเริ่มต้น จองตั๋วเครื่องบินแต่ก็ตกใจทันที เพราะว่า ไปกลับ คนละ 16K เพราะซื้อล่วงหน้าอาทิตย์เดียว มันกระชั้นเกินไปราคาจึงแพงเป็นปกติ ถือเป็นบทเรียนแรกเลย (ก็คนไม่เคยเที่ยวอ่ะนะ) แต่ยังไม่ล้มเลิกความคิด จำได้ว่า ภรรยาเคยแชร์ package ทัวร์มา ที่เค้าว่าดี และไม่แพง ผมก็กดไปดู คนละ 18K รวมเครื่องบิน ที่พัก การเดินทาง อาหารเกือบครบทุกมื้อ ผมไม่รอช้า วันรุ่งขึ้น จอง จ่ายเงินเสร็จสรรพเลย เหลือ 3 ที่สุดท้ายพอดี

หลังจากจองเสร็จแล้ว ก็หาการท่องเที่ยวอีกอย่าง นั่นคือ เรือสำราญ ครับ เป็นการท่องเที่ยวที่ผมเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ (น่าจะประถม) จำได้ว่า การเที่ยวเรือสำราญ มันเป็นอะไรที่สบายมาก แต่ก็เคยหาข้อมูลครั้งนึงเมื่อหลายปีก่อน ว่าเป็นอะไรยังไง แต่ก็ไม่เคยไปสักที แต่วันที่ความคิดเปลี่ยน ก็เลยปรึกษากันต่อ ถึง trip ต่อไปเลย แล้วตกลงใจกันว่า เป็นช่วงสงกรานต์ เพราะภรรยาผมจะได้ไม่ต้องลาเยอะ ส่วมตัวผมเอง สบาย เพราะว่า วางแผนลาออกไว้แล้ว

ก่อนที่จะบินไปเที่ยวฮ่องกง ก็ทำการโอนเงินไปจอง trip เรือสำราญแล้วเรียบร้อย และหลังจากกลับมา ก็โอนเงินเต็มจำนวนเพื่อ booking trip เรือสำราญ เป็นอันจบกระบวนการไปอีก trip

แต่ยังไม่จบ ปลายปีกำลังวางแผนว่าจะไปเที่ยวไต้หวันเป็นประเทศที่สามของปีนี้อีกด้วย แค่นี้ครับ อย่างที่ผมเคยบอก เมื่อวันที่ความคิดเราเปลี่ยน พฤติกรรม การกระทำเราก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน

แค่นั้นเหรอ?

ยังครับ ผมก็วางแผนลาออกอีกด้วย เอาให้สุดกันเลยทีเดียว และให้มีผลสิ้นเดือน มีนา ช่วงสงกรานต์ ก็เที่ยวได้สบายเลย ไม่ต้องลา ต้องอะไรอีก

แต่เรื่องลาออก เดี๋ยวผมจะแยกเนื้อหาเล่าให้ฟัง ว่าความคิดอะไร ที่ทำให้ลาออก แต่ไม่ใช่ความคิดตื้นๆ หรือ อารมณ์ชั่ววูบอย่างแน่นอน

ผมเฝ้าถามตัวเองเสมอ What is your next chapter? และนีแหล่ะ ก็คือคำตอบ

ผมตอบไม่ได้หรอกนะ ว่าอีกหลายปีหลังจากนี้ ผมจะเบื่อ life style แบบนี้หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ยังไม่เบื่อ ดังนั้น เราก็ใช้ชีวิตไปในแบบที่เราอยากใช้นี่แหล่ะ