ถ้าผมถามคุณว่า เรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ ที่คุณต้องการทำให้ได้ แต่ตอนนี้ยังทำไม่ได้ คือเรื่องอะไร เอาแบบเด็ดสุดๆ สักสามข้อ คุณตอบได้มั้ยครับ ลองจด หรือ คิดเอาไว้ในใจก่อน กลับมาฟังเรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟัง
เอ้ เป็นวัยทำงาน ที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ไม่ต่างจากมนุษย์เงินเดือนที่เข้ามาแสวงหาโชคและโอกาสใน กทม เหมือนคนอื่นๆ เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเอ้ ก็คือ เก็บเงิน เพื่อซื้อบ้านให้พ่อแม่ได้อยู่อาศัย เพราะทุกวันนี้ พ่อแม่ของเอ้ ยังต้องทำงานหนัก เพื่อส่งน้องของเอ้เรียน และจ่ายเป็นค้าเช่าบ้านอยู่ที่ต่างจังหวัด เอ้ฝันเอาไว้ว่า อยากเก็บเงินดาวน์ให้ได้สักก้อนก่อน เพื่อให้ไปทำเรื่องกู้ซื้อบ้านได้ และให้พ่อ แม่ น้อง ย้ายมาอยู่รวมกันหมดเลย
เวลาผ่านไปหลายปีกับการแสวงหาโอกาสในกทม เอ้ ก็ตั้งใจทำงาน เข้ากับเพื่อนฝูงเจ้านายได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ว่ากี่ปีผ่านไป เงินเก็บของเอ้ ก็ไม่โตขึ้นพอที่จะเอาไป ดาวน์บ้านได้สักที พอมีเงินก้อนหน่อย เอ้ ก็ต้องเอาไปจ่ายค่าบัตรเครดิตซะก่อน หรือเวลาโบนัสออก ก็จะมีเงินก้อนแค่ไม่กี่เดือนแล้วมันก็หมดไปในเวลาไม่นาน
บอย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเอ้ ได้นั่งฟังความกลุ้มของเอ้ ในวันที่ไปนั่งสังสรรค์กันตามประสาเพื่อนๆ หลังจากฟังจบ บอยก็ทักว่า เอ้ เธออยากจะมีบ้านจริงหรือเปล่า เอ้ ตอบ จริงสิ มันเป็นความฝันที่อยากทำมานานหลายปีแล้ว แต่ทำไม่ได้สักที
บอย แล้วเธอคิดว่า เรื่องนี้มันสำคัญกับเธอแค่ไหน
เอ้ สำคัญมาก นี่ก็เป็นเวลาหลายปีแล้ว ที่จากบ้านมา นานๆถึงจะได้กลับไปพร้อมหน้าพร้อมตากับที่บ้านสักที นี่ก็รอ ว่าเมื่อไรจะได้เงินก้อนเพื่อดาวน์บ้าน แล้วจะได้ไปอยู่พร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวสักที
บอย แต่เดี๋ยวนี้บ้านไม่ต้องดาวน์ก็ได้นะ กู้เต็มได้เลย ทำสัญญาผ่อนยาวๆ เดือนหนึ่งไม่กี่บาท
เอ้ เคยศึกษาแล้วล่ะ ถ้าไม่ดาวน์เลยก็ได้ แต่ว่าเลขเงินผ่อนที่ต่ำที่สุด ก็ยังผ่อนไม่ไหวเลย ทุกวันนี้ ก็ใช้เดือนชนเดือน ยังดีว่าไม่มีหนี้พอกเป็นก้อนอยู่
บอย อืม…. สรุปให้นะ เธอน่ะ ไม่ได้มองเรื่องบ้านเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตหรอก
เอ้ (ทำหน้างง) ไม่จริง ตลอดเวลาที่อยู่ กทม ก็เพื่อที่จะได้มีบ้านตามความฝัน ไม่งั้นตอนนี้กลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดกับครอบครัวไม่ดีกว่าเหรอ
บอย ยังยืนยันอยู่ ว่าเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันเลย ถ้าเราถามเธอ ง่ายๆว่า ทำไมทุกวันนี้ ยังใช้เงินเดือน เดือนชนเดือนอยู่ แบบไม่มีเงินเก็บ เกิดจากอะไร
เอ้ ก็เพราะว่าทุกเดือน เราก็ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าอาหารต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าบัตรเครดิต ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง มาสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง อย่างที่เรานั่งคุยกันอยู่ตอนนี้ไง
บอย มีสาเหตุอื่นอีกมั้ยที่ทำให้ไม่มีเงินเก็บ
เอ้ ไม่มี เดือนๆหนึ่งก็หมดไปกับเรื่องพวกนั้นแหล่ะ แม้ว่าไม่ได้ทำบัญชี แต่ก็ประมาณได้แบบนี้
บอย สาเหตุที่ไม่ทำบัญชีล่ะคืออะไร
เอ้ เสียเวลา เพราะทำงานก็เหนื่อยแล้ว ไม่รู้จะเอาเวลาไหนไปทำบัญชีอีก อีกอย่าง ทำบัญชีไป เงินก็ไม่เพิ่มอยู่ดี
บอย แต่เธอรู้มั้ย ว่าการทำบัญชี มันจะทำให้เราเห็นว่า เรามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนบ้างในแต่ละเดือน
เอ้ รู้สิ ถ้าทำมันก็ต้องเห็น
บอย สรุปให้อีกที ว่า เธอ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องบ้าน เธอ ไม่ได้เห็นเรื่องบ้านในฝัน เป็นเรื่องที่สำคัญเลย , เธอรู้อยู่แล้ว ว่า การจะซื้อบ้านได้ ก็ต้องมีการจัดการทางด้านการเงินก่อน ถ้าเราทำบัญชี เราก็จะเห็นว่า รายจ่ายเราคืออะไรบ้าง แล้วเดือนต่อไป เราจะเริ่มลดรายจ่ายส่วนไหนได้บ้าง เธอก็จะเริ่มมีเงินเก็บ
เอ้ อืม ก็น่าจะจริง
บอย ยังไม่ใช่แค่นั้น เธอ บอกว่าบ้านเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่เธอใส่ใจกับการไปสังสรรค์ ไปเที่ยว ใช้จ่ายกับเรื่องอื่นๆ เหมือนน้ำซึมบ่อทราย เติมเข้าไปเท่าไรก็หายไปหมด โดยจังหวะที่เธอได้ตัดสินใจทำเรื่องเหล่านั้น เธอไม่ได้คิดว่า บ้านเป็นเรื่องที่สำคัญเลย เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลตัว เธอ เป็นคนที่ผลักใสเรื่องบ้านออกไปจากตัวเธอเองอยู่ตลอดเวลา แล้วในที่สุด เธอก็บอกว่า ไปไม่ถึงฝันซะที
เอ้ ………
บอย ถ้าเราถามง่ายๆ ว่า เธอจะต้องทำอย่างไร เพื่อให้เรื่องบ้านกลับมาเป็นเรื่องที่สำคัญ เธอมีความคิดยังไง
เอ้ …. ก็ อืม… ก็น่าจะต้องเริ่มทำบัญชี รายรับรายจ่าย ดูว่ารายจ่ายไหนไม่สำคัญ , เริ่มตัดออกในเดือนถัดไป , เริ่มหาที่เก็บเงินที่อาจจะถอนได้ยากหน่อย
บอย แล้วไงต่อ
เอ้ ก็ต้องลดกิจกรรม สังสรรค์ลงบ้าน หันมาสนใจเรื่องบ้านมากขึ้น ตั้งให้เป้าหมายอยู่ที่บ้านตลอดเวลา จะใช้จ่ายอะไรก็คิดถึงเรื่องบ้านเอาไว้ก่อน น่าจะประมาณนี้
บอย ก็นั่นแหล่ะ เธอเห็นมั้ยล่ะ ว่าที่ผ่านมา บ้านเป็นเรื่องที่สำคัญกับเธอ แต่เธอปฏิบัติกับมันดังเรื่องที่ไม่สำคัญอะไรเลย ถ้ามันสำคัญจริง ทุกลมหายใจเข้าออก มันก็ต้องอยู่ที่จุดนั้นเลย เธอต้องเริ่ม เธอต้องทำ ไม่อย่างนั้นไม่มีวันถึงเลย
เรื่องของ เอ้ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับอีกหลายๆคนที่ปัจจุบัน ที่มีความฝัน มีเรื่องที่ตัวเองคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ไม่ได้ปฏิบัติต่อมันเหมือนเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ
ทีนี้ ย้อนกลับไปที่คำถามที่ผมถามคุณตั้งแต่ตอนต้นบ้าง คุณรู้มั้ย ว่าทำไมตอนนี้ถึงยังไม่สำเร็จ และคุณจะต้องหาทางแก้ไขมันอย่างไร และที่ผ่านมา คุณได้ใส่ใจกับมันจริงๆหรือเปล่า