แม้จะไม่สำเร็จในการผ่าน challenge นี้ได้ แต่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นเยอะมาก และทำให้ได้ประโยชน์กับตัวเองมากด้วยเหมือนกันดังนี้
ได้ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่ได้ทำ
ก่อนนี้ไม่ได้มีเวลาอ่านหนังสือเลย ก็ได้อ่านบ่อยขึ้น ก่อนนี้อาทิตย์หนึ่งออกกำลังกาย 1 วัน ก็ได้ออกกำลังกายเกือบทุกวัน ก่อนนี้ blog ที่ร้างไปครึ่งปีก็ได้กลับมาเขียนต่อเนื่อง เหมือนเวลาเพิ่มขึ้นมา แต่เปล่าเลยก็ 24 ชั่วโมงเท่าเดิมนั่นแหล่ะ
ได้ทำงานเยอะขึ้น
ตอนนี้ track เวลาการทำงานของตัวเองอยู่ ซึ่งปกติ คนจะมีเวลาทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่สัปดาห์นี้ track time ไปแล้ว 48 ชั่วโมงครึ่ง และยังไม่หยุด เพราะเสาร์อาทิตย์นี้มีงานต้องทำอีกเพียบ (เวลานี่นับเฉพาะทำงานจริงๆ เช่น ถึง office 9 โมง แต่ถ้าไม่ได้นั่งทำงานอะไร ก็ไม่นับ นับเมื่อเริ่มทำงานจริงๆ และหยุดtrackเมื่อหยุดทำงานจริง เพราะ track แยกกับ activity อื่นด้วย ดังนั้นจะไม่ใช่แบบว่า ถึง 09.00 กินข้าวถึง 10.00 ก็ถือว่ามาทำงานตั้งแต่ 09.00 นั่นไม่ใช่แบบนั้นนะ ถ้าคนที่เคย track activity ตัวเองจริงๆจะเข้าใจ)
ได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้น และได้ปรับมองมุมมองใหม่ๆมากขึ้น
อันนี้ส่วนตัวเอง ที่นั่งดู vdo พวกที่ inspire ให้แรงบันดาลใจ เป็นเหมือนการเติมเชื้อไฟให้ตัวเองในทุกๆวัน ความคิดเราเริ่มเปลี่ยน และเราเริ่มรู้ว่า เรากำลังทำอะไร ไปเพื่ออะไรจากที่เมื่อก่อนก็ทำงานไปวันๆ และทำให้รู้ว่า youtube มันเป็นคลังความรู้ที่ใหญ่มากจริงๆ มากกว่ามีเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
หากเราจะตี golf ให้ถึงดวงจันทร์ ถ้าพลาด ก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาว
ตอนนี้แม้ว่าตื่น ตีสี่ครึ่งไม่ได้ แต่ตื่นตี 5 ไม่ใช่เรื่องยากเลย ถือว่าดีขึ้นมาก จากเมื่อก่อน ตื่น 7 โมง แล้วก็ได้แค่ทำกิจกรรมส่วนตัวก็หมดเวลาแล้ว
ได้ค้นพบความหมายของ challenge นี้
ค้นพบว่า challenge นี้ ไม่ใช่เรื่องของ “ต้องตื่นตีสี่ครึ่งให้ได้ทุกวัน” แต่มันคือ “คุณได้มีเวลาทำกิจกรรมที่อยากทำ ได้ทำอะไรให้ไปสู่ความสำเร็จมากขึ้น จากการตื่นเช้า”
ปัจจัยที่มากระทบ ทำให้ challenge นี้ไม่สำเร็จ
ชีวิตคนเมืองกรุง ทำได้ยากมาก
ถ้าสังเกตุดีๆ สี่ทุ่ม ชีวิตคนกรุงยังจอแจอยู่เลย ห้างร้านส่วนใหญ่ก็ยังเปิดอยู่ แปลว่าเวลาคนกรุงมีวงจรชีวิตดึก ถ้าจะทำ challenge นี้ต้องเข้านอน 4 ทุ่ม แต่ส่วนใหญ่ 4 ทุ่มยังเดินทางอยู่บ้าง ยังทำกิจกรรมอื่นอยู่บ้าง
งานเยอะ ออกจาก office ดึก ทำให้นอนเร็วไม่ได้
เช่น หลายๆวัน 4 ทุ่มยังอยู่ office อยู่เลย แต่นั่นคือเวลานอนแล้ว -_- แทบไม่ได้กลับบ้านเวลาปกติบ้างเลย
พักผ่อนน้อยเกินไป
ไปนั่งศึกษา Routine ของทหารที่ได้ชื่อว่ามีระเบียบวินัยมากๆ เค้านอน 3 ทุ่ม (แบบบังคับว่าต้องนอนด้วย ถ้าไม่นอนถูกทำโทษอีกต่างหาก) แล้วตื่นตี 5 แบบนี้ทุกวัน ก็เลยคิดว่า แล้วเราเป็นใครที่จะนอนได้เที่ยงคืน ตื่นตี 4 ครึ่ง ถ้าทำแบบนี้เวลานอนจะติดลบ แล้วถึงจุดหนึ่ง ก็จะไม่ไหว แล้วร่างกายจะทวงคืนหมดเลย ซึ่งถึงจุดนั้น วงจรชีวิตก็จะรวนไปหมด
balance ชีวิตไม่ได้ นั่นก็ไม่ใช่ความสำเร็จ
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าต้องตื่นตีสี่ครึ่งทุกวัน แต่เวลาทำงานแล้วก็ทำงานไม่ได้ สมองไม่ไป ง่วง แบบนี้ก็ไม่ถือว่าสำเร็จ เพราะนั่นคือไม่สามารถ balance ชีวิตตัวเองได้ แล้ว challenge นี้มันจะมีประโยชน์อะไร
สุดท้าย ก็ยอมรับตรงๆว่าไม่สำเร็จ แม้ว่าตัวเองเป็นคนที่มีวินัยประมาณหนึ่งแล้วนะ แต่การทำให้ได้ตาม challenge โดยใช้ชีวิตทำงานที่ กทม นี่ยากจริงๆ ถ้าต่างจังหวัดอาจจะไม่แน่ เพราะรอบวงจรชีวิต คน กทม กับ ต่างจังหวัดต่างกันพอสมควรเลย ตอนนี้ ก็ลองปรับเวลาตื่นตี 5 แทน แล้วดูต่อไปว่าจะอยู่ตัวมั้ย