ผมเป็นคนที่ชอบสังเกตุคน เรียนรู้พฤติกรรม ความคิด ถ้าได้ทำงานร่วมงานกับใครนานๆ ผมจะเดาความคิด และ พฤติกรรมเค้าได้ ว่าในเรื่องหนึ่งๆเค้าจะคิด และทำอย่างไร
ผมได้มองเรื่องของหลายๆคน ที่วันนี้ เค้ายังไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ยังเป็นพนักงานตัวเล็กๆ แต่อายุไม่น้อยแล้ว ยังคงวนเวียนย่ำอยู่ที่เดิม อีกทั้งคนที่เคยร่วมงานด้วยก็ส่ายหัวให้ เพราะงานที่ออกมาก็ไม่ดี การพูดการจาก็ไม่ดีอีก (หน้าตาไม่พูดถึงละกันนะ เลือกไม่ได้น่ะ)
คนเหล่านี้ จะมีลักษณะเฉพาะตัวที่ผมเห็น และเป็นเหมือนกันหรือคล้ายกันในทุกๆคน ก็คือ การที่ชอบดูถูกตัวเอง, เหยียดว่าตัวเองต่ำต้อย สู้ใครเค้าก็ไม่ได้, มองว่าตัวเองไม่คู่ควรกับสิ่งที่สูงๆ, ฟังคำวิจารณ์แล้วโกรธ แต่ก็ไม่ปรับปรุง, ไม่ชอบปรับปรุงตัวเอง แต่ก็มักจะมีความอยากที่ตรงกันข้าม ก็คือ อยากได้ อยากดี อยากเด่น แต่ถ้าให้ต้องลงมือทำ ไม่เอาหรอก
สิ่งเหล่านี้มันออกมาจากความคิดครับ ใครที่มีความคิดแบบนี้อยู่ให้เริ่มปรับความคิดก่อนเลยเป็นสิ่งแรก การกระทำยังไม่ต้องปรับก็ได้ แต่ว่าต้องปรับความคิดให้ได้ก่อน (ในความเป็นจริง คือเมื่อเราปรับความคิดเราได้ การกระทำเราจะปรับไปตามความคิดด้วย)
ดังนั้น ถ้าเราไม่อยากเป็นคนหนึ่งที่ถูกตัวเองสะกดจิตให้ตัวเองไม่สำเร็จ จงปรับความคิดเสียตั้งแต่วันนี้
แล้วจะปรับความคิดเป็นอะไรล่ะ? เป็นคำถามที่ดีที่หลายคนมักจะถาม (รวมถึงผมเองเมื่อก่อนด้วย)
ง่ายๆ ถ้าเริ่มต้นก็คือ หยุดคิดเรื่องแย่ๆเหล่านั้นก่อน เพราะเมื่อคุณเริ่มต้นความคิด จิตคุณมันจะต่อยอดไปเรื่อยๆ ดังนั้น จุดที่ง่ายที่สุด ถ้าเราเริ่มมีความคิดแย่ๆ เช่น ทำไมมันห่วยจัง, ทำไมออกมาเป็นแบบนี้, ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้ ให้หยุดความคิดเหล่านั้นทันที! การจะหยุดได้เราก็ต้องมีสตินะครับ รู้ตัวว่าตอนนี้ความคิดเรากำลังไหลไปกับเรื่องอะไรอยู่
เมื่อเราผ่านด่านแรกคือหยดความคิดห่วยๆแล้ว เราก็มาด่านที่สอง คือ ปรับความคิดให้คิดแต่เรื่องที่ดี และเป็นบวก+ เรื่องนี้ เป็นการฝึกฝนครับ เป็น skill แบบหนึ่งที่เราฝึกได้ ย่อหน้าบนบอกให้หยุดความคิดร้ายๆ แต่ชีวิตจริงคนเราไม่เคยหยุดคิดสักวินาทีเดียว งั้นเราก็เปลี่ยนเรื่องร้ายให้มาคิดเป็นเรื่องดีๆ จะดีกว่า เช่น ทำไมงานที่เราได้รับมาจากคนอื่นมันถึงห่วยแบบนี้ เรากำลังจะด่าเค้าในใจบางครั้งนี่คิดต่อไปว่าจะเอาไปเม้าท์กับเพื่อนยังไง เตรียมเรื่องในหัวแล้ว เมื่อชั้นเจอเพื่อน คนนี้ๆๆๆ จะเม้าส์งานของคนนั้นให้แหลกเลย ว่าส่งมาให้ชั้นยังไง แต่เราควรหยุด และเริ่มคิดว่า นี่มันเป็นโอกาสของเรา ที่เราจะเปลี่ยนงานห่วยๆ ออกมาเป็น master piece ได้เป็นอย่างดีเลยนะ ยิ่งเค้าทำมาห่วยมาก เรายิ่งทำให้เกิดความแตกต่างให้มาก (ทีนี้กลับกันเลย เราจะกลัวเพื่อนเราทำงานดีกว่าเราก่อนส่งมาให้เราแทน 555) เพราะว่าการที่เราทำงานห่วยให้ออกมาสวยได้นั่นคือเราเป็นคนมีฝีมือมากคนหนึ่งเลย แล้วแค่นั้นไม่พอเมื่องานที่ออกมาจากเราดูดีแล้ว มันต้องมีคนเห็น ถ้าไม่ใช่ลูกค้าเห็น ก็ต้องหัวหน้านั่นแหล่ะ ที่เห็น แล้วท้ายที่สุด value ของตัวเราเองก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอน ผลตอบแทนก็จะติดตามมาติดๆเลย
เห็นมั้ยเรื่องเดียวกัน แค่ปรับความคิด การกระทำก็จะเริ่มเปลี่ยนไป พฤติกรรม คำพูด ก็จะเปลี่ยนตาม แล้วความสำเร็จ ก็จะตามมาในท้ายทึ่สุด
เลิกสะกดจิตตัวเองให้เป็นคนล้มเหลวซะตั้งแต่วันนี้!