ช่วงนี้พ่อของภรรยาผมป่วยหนัก (โรคร้ายแรง) เข้าโรงพยาบาล ภรรยาผม ก็เสียใจร้องให้มากทีเดียว ผมก็ต้องคลอยปลอบทำให้ขวัญกำลังใจดีขึ้นมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนร้องให้มากกว่านี้แน่นอน โดยสิ่งที่ผมช่วยปลอบแล้วทำให้ดีขึ้นก็คือ ช่วงนี้คนป่วย ต้องอาศัยกำลังใจจากคนรอบข้าง ดังนั้น คนรอบข้างก็ต้องเข้มแข็งให้มาก ถ้าพ่อเห็นว่าเราเสียใจ เค้าจะยิ่งทุกข์ลง แล้วก็จะยิ่งทรุดลงไปอีก เพราะว่าเค้าคิดว่าเค้าเป็นภาระเรา โดยเฉพาะคนแก่ ก็ไม่อยากให้เป็นภาระของลูกหลานดังนั้น เค้าจะคิดมาก
ภรรยาผมก็ดีขึ้น เข้มแข็งขึ้นมาก แต่บางครั้งก็ยังมีน้ำตาซึมบ้าง ผมก็บอกให้ลองหายใจเข้ายาวๆ หายใจออกยาวๆ ช้าๆ ต่อเนื่องเป็นจังหวะแล้ว อาการจะดีขึ้น ซึ่งก็รับประกันผลนะครับ ว่าดีขึ้นจริง จากนั้นก็สอนให้มองเห็นสิ่งดีๆที่เกิดจากเรื่องนี้ต่อ เช่น อย่างน้อยพ่อก็ยังมีเวลาให้เราได้พูดคุย ไม่ได้จากไปกระทันหันเหมือนอย่างคนที่ประสบอุบัติเหตุ หรือว่า โรคที่ว่า ก็ยังมีทางรักษาอยู่บ้างไม่ใช่ให้นอนรอนับถอยหลังอย่างเดียว และ เคยมีเคสคนดังหรือคนอื่นจำนวนมาก ที่สามารถรักษาแล้วต่ออายุไปได้อีกเป็นปีเลยทีเดียว ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นครอบครัวก็รับได้ อะไรแบบนี้
เพราะว่าเรื่องของความทุกข์ มันเกิดจากจิตใจเราเอง แต่ถ้าเรามองเห็นว่า โลกเราก็เป็นแบบนี้แหล่ะ มี เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา เราก็จะทำความเข้าใจได้ แต่ว่าในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไป เราก็ต้องใช้ชีวิตให้ดี ทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ที่สุด ตลอดเวลา เพื่อให้ทุกคนได้รับพลังจากเราไปด้วย และเราเองก็จะได้มั่นใจว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเราได้ทำดีที่สุดแล้วในทุกๆอย่าง ทุกๆเรื่อง เวลาที่เราเสียใจ ก็หยุดคิดเรื่องนั้นก่อน ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต อยู่กับปัจจุบัน ให้เรารู้ว่ากำลังทำอะไร เป็นอย่างไร
เพียงเท่านี้ ความทุกข์ ความเศร้าก็จะบรรเทาลง เพราะว่าเราไม่ยึดติดยึดถืออะไรอีกต่อไป